Sunday, April 27, 2014

..พี่เลี้ยง..THE DAY' I was your man(Yaoi-drama) Unseen 9 (ทัต-ซี)




Unseen-9 (ทัตซี)



-หกทุ่ม-


ภูวดลยืนนิ่งงันหลังจากเปิดประตูห้องออกมาตามเสียงเคาะเรียก  เขาที่กำลังจะนอนข้องใจว่าคน ๆ นี้มายืนหอบหมอนหอบผ้าห่มอะไรอยู่หน้าห้องเขา


“ซี ห้องนั้นแอร์เสีย พี่ร้อน” เสียงทุ้มงัวเงียยกมือเกาหัวคล้ายคนถูกปลุกออกมากลางครัน


“อ๋อ งั้นเดี๋ยวผมยกพัดลมเข้าไปให้ครับ” ร่างกายสูงใหญ่เดินแทรกตัวเข้ามาภายในห้องนอนของเขาแล้วเรียบร้อย


“ไม่เอา  พี่นอนพัดลมไม่เป็นนะ ร้อนนนน” เขาว่าหน้ายู่แล้วโยนไอ้พวกหมอนผ้าห่มที่อุ้มมาด้วยลงบนเตียงจากนั้นกระโดดขึ้นไปนอนคว่ำหน้านิ่งอยู่ตรงนั้น


“พี่ทัตจะนอนที่นี่เหรอครับ”


“อือฮึ  ไม่กวนซีหรอกใช่ไหม” เขาพลิกตัวขึ้นมานอนหงาย


“ร้อน ถอดเสื้อนะ” เขาไม่รอว่าอีกคนจะอนุญาตหรือไม่  หากแต่ลุกขึ้นนั่งแล้วถอดเสื้อยืดที่สวมอยู่ออกทางศีรษะทันที


“โหย เหงื่อออกเต็มเลยนี่ดูสิ ผิวพี่แดงไปหมดแล้ว ผื่นขึ้นรึเปล่าไม่รู้”  เขาเป็นผู้ชายที่ผิวพรรณดีไม่เคยเปลี่ยนเลยจริง ๆ สมแล้วที่ชอบกินมะเขือเทศ พอร้อนเข้าหน่อยผิวแดงเห่อเป็นทางเลย  ภูวดลเดินไปกดเร่งแอร์ให้เย็นขึ้นอีกนิด  เขาท่าจะเป็นคนขี้ร้อนมากจริง ๆ


“สร้อยมันขูดผิวน่ะ ถลอกไหมซีมาดูหลังคอให้หน่อยสิ มันแสบ ๆ” 


ภูวดลจำใจเดินไปดูที่ต้นคอด้านหลังให้ เห็นแค่เป็นรอยแดง ๆ จึงบอกเขาว่าไม่เป็นอะไรมาก สร้อยทองคำขาวเส้นเล็ก ๆ ที่เขาสวมใส่อยู่เสมอมีแหวนวงหนึ่งห้อยไว้แทนจี้ สะกิดใจภูวดลนิดหน่อย 


“งั้นพี่ทัตนอนนี่นะครับ เดี๋ยวผมออกไปนอนที่ห้องนั้นเอง”  


“เฮ้ย! ไม่เอา” ทัตพลที่เพิ่งเอนตัวนอนลงดีดตัวขึ้นทันที เขาเอื้อมไปคว้าแขนภูวดลไว้ เพราะอีกคนกำลังก้มลงหยิบเอาหมอนและผ้าห่มของตัวเอง 


“นอนนี่แหละ นอนด้วยกัน....ไม่ได้เหรอ” เขาเงยหน้าถามส่งเสียงคล้ายเด็กกำลังอ้อนขอกินนม


“ผ...ผมไม่เคยนอนกับคนอื่นน่ะครับ เคยนอนแต่กับทราย”


“ก็คิดเสียว่าพี่เป็นทรายก็ได้นี่ นอนลงเถอะ มาเร็ว” เขาดึงหมอนที่ภูวดลอุ้มอยู่วางลงที่เดิมทั้งผ้าห่มก็ถูกเขากระชากกลับลงมา ตบๆลงบนที่นอนเรียกให้อีกคนรีบนอนลงมาได้แล้ว


ภูวดลมองหน้าเขาแล้วคิด  พูดง่ายดิ่ ให้คิดว่าเขาเป็นวาริน ขนาดตัวคนล่ะไซด์เลย จะให้เขานอนกอดยังไง เสี่ยงจะถูกเจ้าลุงนี่กอดล่ะสิไม่ว่า


“คิดไรอยู่เนี่ย นอนเหอะ”


“ครับๆ” เขาตอบรับแล้วล้มตัวลงนอนอีกฝั่งหนึ่งของเตียงอย่างเสียไม่ได้  หลับตาลงได้แค่ไม่ถึงสองนาที


“หลับหรือยัง ทำไมไม่ยอมห่มผ้า”


ดวงตาสีนำ้ตาลเข้มลืมขึ้นขณะอีกฝ่ายขยับเข้ามาใกล้ ยกผ้าห่มคลุมให้ชิดอก แววตาอ่อนโยนเจือความรู้สึกห่วงใยถักทออยู่เต็มนัยน์ตาคู่นั้นขณะมองทอดลงมาที่คนด้านล่าง


“ยังไม่หลับครับ พี่ทัตทำไมยังไม่นอน”


ภูวดลทำไมถึงได้กลิ่นหวานละเมียดคล้ายกลิ่นวานิลาเจือจางลอยออกมาจากตัวของเขา ยิ่งเขาโน้มตัวเข้าใกล้ยิ่งขึ้นกลิ่นหอมหวานจากเขาทำเอาภูวดลรู้สึกดีแปลก ๆ


“ตัวคุณทำไมมีกลิ่นหอมอยู่ตลอดเลย กระทั่งเวลาแบบนี้”


ทัตพลมองหน้าภูวดลนิ่ง เขาเลื่อนตัวขยับเข้ามาจนแขนชิดกัน


“ทำไมเหรอ  เวลาแบบนี้แหละถึงต้องหอม”


“พี่ทัตนี่แปลกคนจริง ๆ นะครับ”


“ยังไง”


ภูวดลเลือกที่จะไม่พูดต่อ เขาหลับตาลงแล้วส่ายหน้าเบา ๆ บอกให้รู้ว่าไม่อยากพูดต่อแล้ว แต่ทัตพลกลับไม่คิดแบบนั้น


“อยากรู้ไหม กลิ่นหอมของพี่ออกมาจากตรงไหน”


เขาเลื่อนตัวเข้ามากระซิบ ภูวดลลืมตาขึ้นมองทันที มือของทั้งคู่ใต้ผ้าห่มผืนหนาแตะสัมผัสกัน เป็นทัตพลที่ไล้นิ้วมือเรียวเล่นทีละนิ้ว ๆ เหมือนอยากให้อีกฝ่ายรู้คำตอบ


“ตรงนี้ไง”


“หืม?” ภูวดลทำหน้าสงสัย  เขาว่ากลิ่นหอมของเขาออกมาจากนิ้วมือน่ะหรือ??


“ลองจับดูสิ จับขึ้นมาดูเลยก็ได้”


ภูวดลที่ถูกเขาไล้ปลายนิ้วเล่นอยู่ไม่รอช้า ขยับมือเข้าสัมผัสนิ้วเรียวหนากลับบ้างเหมือนกัน เขายกมือทัตพลขึ้นมาในระดับสายตาท่ามกลางความมืด แต่ยังสามารถมองเห็นได้


“มือพี่ทัตใหญ่จังนะครับ”


“เพราะมือซีเล็กต่างหากล่ะครับ” เขาทาบปลายนิ้วเพื่อวัดขนาดฝ่ามือของกันและกัน ขณะที่ภูวดลกำลังคิดว่ามือวารินเล็กกว่ามือของเขาอีกเพราะงั้นคงจะเล็กมากๆถ้าเทียบกับมือของผู้ชายคนนี้


“ทำแบบนี้”


“ครับ?”


เขาว่าพร้อมทาบสอดทั้งห้านิ้วลงกับนิ้วเรียวที่กางรอไว้อยู่แล้ว สองคนหันมาสบสายตากันนิ่ง บรรยากาศรอบข้างเงียบกริบ ทัตพลดึงมือบางที่สอดประสานไว้นั้นมาแนบไว้ที่อก นึกไปถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมาตลอดทั้งวันตั้งแต่เขาไปที่บ้านของภัครจิรา จนกระทั่งกลับมาสารภาพเรื่องราวทุกอย่างกับภูวดล


“ขอบใจนะซี  ขอบใจที่ซีไม่ทิ้งพี่ไป ขอบใจที่ยังมีเราอยู่ข้าง ๆ กัน”


“ผมเองก็ดีใจนะครับ ที่คุณเลือกที่จะไม่ปิดบัง เลือกบอกความจริงทุกอย่างกับผม นั่นแสดงให้เห็นว่าคุณเป็นคนกล้าหาญแล้วก็จริงใจ”


“จริงใจสิครับ ถ้าไม่จริงใจไม่ยอมให้ชกฟรี ๆ หรอกนะ”


ทัตพลพลิกตัวนอนตะแคง มองใบหน้าด้านข้างของอีกคนชัด ๆ เรียวนิ้วหนาไล้ไปตามสันจมูกโด่ง ภูวดลจมูกสวยมากจริง ๆ


“ทำไมพี่ไม่รู้จักเราให้เร็วกว่านี้นะ” เขาพึมพำ ไม่รู้ว่าภูวดลได้ยินหรือไม่


“นอนเถอะครับ ดึกแล้ว”


“ก็แล้วใครกันล่ะพูดเรื่องกลิ่นหอมอะไรนั่นขึ้นมา ว่าแต่...มันยังหอมอยู่ไหมอ่ะ”


“ก็หอมนะครับ คุณใช้น้ำหอมตอนนอนด้วยเหรอ”


“ไม่ใช่น้ำหอมหรอก น้ำแร่น่ะ สเปรย์น้ำแร่”


“อ๋อ ไอ้ขวดใสๆที่วางอยู่ในตู้เย็นน่ะเหรอครับ”


“ฉีดที่ตรงนี้”


เขาว่าแล้วจับมือภูวดลขึ้นมาสัมผัสที่ลำคอของเขา ภูวดลหน้าร้อนขึ้นมา รีบชักมือกลับ


“แถว ๆ ลำคอจะมีจุดชีพจรที่ไวต่อความรู้สึกอยู่ เพราะอย่างนั้นเวลาที่เราใช้สเปรย์น้ำแร่เขาจึงให้ฉีดลงที่ฝ่ามือตบ ๆ ให้น้ำมันฟุ้งแล้วใช้สองมือแปะๆเข้าที่แถวๆลำคอนี่แหละ”


“รู้ดีเรื่องแบบนี้จริง ๆ นะครับ”


“หอมนะ ลองดมดูสิ” เขาไม่พูดเปล่า ยืดลำคอขึ้นจนเห็นรอยนูนของลูกกระเดือกแสดงความเป็นชาย รอให้คนข้าง ๆ เข้ามาพิสูจน์กลิ่นหอม


“ไม่เอาหรอกครับ คุณนอนเถอะ” ว่าจบแล้วภูวดลก็หลับตาลงทันที ไม่รู้ทัตพลพูดเรื่องอะไรจะให้ไปดมกลิ่นหอมที่ซอกคอเขาเนี่ยนะ มันแปลกไม่ใช่หรือไง?


“ซี”  ทัตพลเรียกขึ้น  ภูวดลคิ้วขมวดทันที  นี่เขาจะไม่ยอมหลับนอนเลยจริงๆ


“พี่ว่า..พี่ก็ได้กลิ่นหอมของซีเหมือนกันนะ”


“ห๊ะ?  อะไรนะครับ ผมไม่ได้ใช้สเปรย์อะไรนั่นเลยนะ”


“จริงอ่ะ?” คราวนี้เขาพลิกตัวเข้ามาหาแล้วทำท่าสูดดมกลิ่นหอมจากร่างกายภูวดลเต็มที่


“จริงนะ มันเป็นกลิ่นเหมือนคาลาเมลเลย หอมแบบหวาน ๆ”


“ไม่มีหรอกครับ กลิ่นหอมแบบนั้นจะมาจากไหนกัน”


“ตรงนี้ล่ะมั้ง ไหนดมดูซิ”


เขาว่าแล้วแนบจมูกลงชิดลำคอบาง พิสูจน์ความหอมว่ามาจากตรงจุดนี้จริงไหม


“พี่ทัต!” ภูวดลตกใจรีบผลักตัวเขาออกห่างทันที


“ขอโทษ ตกใจเหรอ”


“นอนได้แล้วครับ มัวแต่คุยอยู่แบบนี้เมื่อไหร่จะได้นอนกันสักที” เขาว่าแล้วหยิบหมอนข้างเข้ามาวางกั้นแบ่งพื้นที่ไว้ ทัตพลปรายสายตามองกิริยาแบบนั้นแล้วอมยิ้มออกมา


เอื้อมมือเข้าไปจับหมอนข้างเหวี่ยงลงที่ข้างเตียงแล้วพลิกตัวขยับกายเข้าสวมกอดอีกคนไว้ทันที ภูวดลกำลังจะอ้าปากโวยวายและทำท่าจะลุกขึ้นแต่ก็โดนลำแขนแกร่งของเขาทาบทับลงมาที่หน้าอกจนจะลุกก็ลุกไม่ได้ พอจะอ้าปากด่าก็เจอเขาเบรกเข้าให้เสียอีก


“ชู่ว์ ไหนว่าจะนอนไงครับ มัวแต่โวยวายแบบนี้จะได้นอนกันตอนไหนเนี่ย”


ไม่กี่นาทีหลังจากนั้น ลมหายใจร้อนผ่าวเป่ารดอยู่ที่ซอกคอของเขา ทัตพลลืมตาขึ้นในความมืดมองคนที่ตัวเองนอนกอดเอาไว้หลับตานิ่งไปแล้ว มือใหญ่สอดลงที่เส้นผมนิ่มอย่างเอ็นดู ก่อนตัดสินใจจรดริมฝีปากจูบลงที่หัวไหล่ขาวเนียนแผ่วเบาไม่ต่างจากสัมผัสของขนนก



*************************************************
Unseen >>> Tbc.