Tuesday, April 29, 2014

..พี่เลี้ยง..THE DAY' I was your man(Yaoi-drama) Unseen 10 (ธารทราย)





Unseen-10 (ธารทราย)



-เช้าตรู่วันหนึ่งขณะวารินกับนับดาวกำลังจะไปจ่ายตลาด-



ต๊อก ต๊อก ต๊อก ต๊อก ต๊อก ต๊อก


เสียงคนเคาะกระจกรัวทางฝั่งคนนั่ง วารินที่กำลังสตาร์ทรถอยู่รีบหันดู ขณะที่นับดาวเห็นคนเคาะแล้วไม่รอช้าเปิดประตูรถก้าวลงไปทันที


วันนี้ฉันจะไปตลาดกับพี่ทรายเอง


เขาว่าแล้วก้าวขึ้นมานั่ง ปล่อยนับดาวยืนงงอยู่ข้างรถ ขณะที่คนขับอย่างวารินหันมาจ้องเขานิ่ง   ไม่เข้าใจ?


พี่ออกรถสิ  เดี๋ยวสายรถจะติดนะ


ธารจะไปซื้ออะไร ฝากพี่กับดาวซื้อมาให้ก็ได้นี่ ตลาดเช้าคนเยอะ ร้อนด้วย ธารจะไหวเหรอ


เพราะรู้ว่าเขาเป็นคนขี้ร้อน ขี้รำคาญ วารินจึงไม่อยากให้เขาต้องไปผจญอากาศและผู้คนที่แออัดในตลาดช่วงเช้า


ขับไปเหอะน่าเขาว่าสบาย ๆ เท้าแขนกับขอบประตู เสยผมยุ่ง ๆ ให้เข้าที่ เมื่อกี้เพราะรีบร้อนลุกขึ้น แม้แต่น้ำก็ยังไม่ได้อาบ แปรงฟันล้างหน้าเสร็จรีบคว้าเอาเสื้อยืดกางเกงขาสั้นมั่ว ๆ ในตู้ออกมาใส่แล้ววิ่งออกมาเลย  กลัวไม่ทันวาริน


วารินมองเขาแล้วชั่งใจครู่หนึ่งแต่ก็ยอมออกรถ พอไปได้แค่ครึ่งทางเท่านั้นหูเล็กแทบชาเพราะเสียงบ่น


เขาบ่นโน่นบ่นนี่ เดี๋ยวก็ว่าแอร์ในรถร้อนบ้างล่ะ เดี๋ยวก็ว่าวารินขับรถไม่นิ่มบ้างล่ะ 


ก็แน่ล่ะสิ รถกระบะเก่า ๆ แบบนี้โช๊คมันจะไปนิ่มสู้เบนซ์ของเขาได้ยังไงกัน ปากเขาบ่นไปมือเขาก็หมุนกระจกลงไปด้วย


กระจกแบบนี้แย่จริง ๆ จะหมุนขึ้นลงแต่ละที ดีนะมันไม่ติดมือผมออกมาด้วยเนี่ย  เขาว่าประชด ทำหน้าหงิกงอใส่บานประตู


ใจเย็น ๆ สิธารค่อย ๆ หมุนวารินปราม


เห็นอารมณ์เขาเสียเพราะต้องหมุนตัวเปิดกระจกที่สุดแสนจะฝืดแล้วกลัวใจเขาจริง ๆ.... กลัวว่าเขาจะงัดไอ้ก้านตัวหมุนออกมาฟาดทิ้งลงข้างทาง


เดี๋ยวอาทิตย์หน้าว่าง ๆ ไปซื้อใหม่สักคัน ให้เตมันไปเลือกเอาเองเลย ไม่ไหวๆนั่งคันนี้ครั้งแรกมือไม้แทบแตก นั่งไปได้ยังไงวิทยุก็จะพังมิพัง แอร์ก็เย็นบ้างร้อนบ้าง  แถมกระจกยังฝืดแบบสุด ๆ อีก แล้วนี่อะไรเวลาขับพี่ต้องใช้เบาะรองหลังด้วยเหรอเนี่ย หึหึหึ


ไอ้คำบ่นช่วงแรกของเขาน่ะบ่นไปหน้าหงิกไปแต่พอมาพูดถึงว่า วารินต้องใช้เบาะรองหลังเวลาขับรถ เขากลับหัวเราะเบา ๆ ออกมาเสียได้ จนวารินต้องหันไปทำตาเขียวใส่


คุณชายกำลังนั่งนวดมือของตัวเองคงจะช้ำไม่น้อยหลังจากตั้งหน้าตั้งตาหมุนกระจกแบบนั้น  จริง ๆ แล้วเขาเป็นผู้ชายที่มีมือสวยมาก เรียวนิ้วยาวขาวสะอาดมาก ๆ  วารินเคยแอบมองแล้วคิดไปว่ามือเขาช่างเหมาะกับการทำหัตถการทางการแพทย์มากจริง ๆ


ธาร พี่ล่ะสงสัยจริง ๆ


เรื่องอะไร?”


ธารใจร้อนแถมขี้โมโหแบบนี้  ต่อไปเป็นหมอธารจะทำยังไง เผื่อคนไข้พูดอะไรไม่เข้าหูธารไม่ด่าเขาเปิงไล่ออกจากห้องตรวจเลยเหรอ แล้วเผื่อต้องเย็บแผลทำแผลโดยใช้เวลานาน ๆ ธารจะไม่รำคาญสอยเอาๆจนแผลคนไข้เสียรูปไปหมดเลยหรือไง


นี่พี่ทราย ผมน่ะเวลาเรียนหรือเข้าห้องปฏิบัติการขึ้นชื่อว่าใจเย็นที่สุดในห้องแล้วนะ พี่จำไอ้ฟ่างได้ป่ะ ไอ้คนที่พี่เจอวันมาลงทะเบียนให้ผมน่ะ เห็นมันใจเย็นเนิบๆแบบนั้น เวลาฝึกเย็บแผลนะมันสอยเอาๆจนหนังเทียมงี้กระจุยเลย  ส่วนคนที่พี่ว่าใจร้อน ๆ อย่างผมกลับได้รับคำชมจากอาจารย์ว่าเย็บแผลได้สวยและประณีตที่สุดนะครับ นี่ไม่ได้คุยนะ เรื่องจริงทั้งหมด ที่ผมใจร้อนนี่ร้อนกับพี่คนเดียวเหอะ


....ก็เพราะรู้ว่าวารินรักเขาถึงได้เอาแต่ใจด้วยไงล่ะ หึหึ...


ขณะที่คนขับอย่างวารินได้แต่หันมองเขาเป็นระยะๆด้วยสีหน้าที่เจื่อน ๆ บอกไม่ถูก  


ให้ตายเถอะ คำพูดเจ้าเด็กนี่เชื่อถือได้แค่ไหนนะ


พอมาถึงตลาดคุณชายก็เดินหลบคนแทบจะไม่ทันเดี๋ยวเดินชนร่มแม่ค้าบ้างล่ะ เพราะว่าเขาตัวสูงเดี๋ยวก็เดินไปชนแผงลอยบ้างล่ะถึงขนาดเกือบเดินชนหม้อแกงจืดขนาดใหญ่ดีที่วารินดึงเขาเอาไว้ได้ทัน จู่ ๆ นึกอยากหยุดก็หยุดเดือดร้อนคนมาด้วยต้องเดินกลับมาลากแขนเขาไปเพราะกลัวว่าเขาจะหลง  มากับเขาทำเอาวารินปวดหัวพูดขอโทษขอโพยแทบไม่ทัน


วารินเลือกซื้อทั้งของสดของแห้งรวมถึงผักสดต่าง ๆ ตามรายการที่นับดาวเขียนเอาไว้ โดยมีคนตัวสูงใหญ่ข้าง ๆ คอยถือถุงให้หนักแค่ไหนก็ไม่มีบ่น  อดจะนึกไปถึงวันเก่า ๆ ไม่ได้ ตอนนั้นแค่ถุงเดียวเขายังไม่ยอมถือช่วยเลย


วารินเผลออมยิ้มออกมา


พี่ทรายเดี๋ยวก่อน ผมอยากกินนี่อ่ะเขาคว้าไหล่เล็กไว้ ชี้ ๆ ไปที่ขนมฝักบัวทอดสีเขียวใบเตย มีคุณยายแก่ ๆ นั่งทอดด้วยเตาถ่านอันเล็ก


ขนมฝักบัวเนี่ยเหรอวารินหันถาม


เอา 10 ชิ้นครับเขานั่งยอง ๆ ลง บอกกับคุณยายคนขาย วารินจึงนั่งลงข้าง ๆเขา


ขอแบบขอบไม่ดำนะครับยายวารินพูดขึ้น คนขายมองหน้าแล้วยิ้มให้


จ้า รอเดี๋ยวนะพ่อหนุ่ม ยายทอดได้ทีล่ะชิ้นเอง


ไม่เป็นไรครับ คุณยายทอดเถอะ ผมจะนั่งดู” กลิ่นใบเตยหอมโชยติดปลายจมูก เขายิ้มอบอุ่นแบบที่วารินเห็นไม่บ่อยนักให้คุณยายตรงหน้า


พักเดียวคุณยายก็จัดขนมใส่ใบตองที่กลัดไม้เป็นกระทงสี่เหลี่ยมแล้วยื่นให้  อีกส่วนหนึ่งใส่ถุงให้เขาหิ้วกลับไปทานที่บ้าน ธาราธารอดปลื้มใจไม่ได้ที่ขนาดคนแก่ ๆ ใช้ภูมิปัญญาชาวบ้านยังรู้จักแยกภาชนะที่บรรจุเพื่อให้เขาสามารถรับประทานตอนนี้เลยก็ได้หรือจะนำกลับไปทานที่บ้านด้วยก็ได้


เขายื่นมือไปรับ แล้วส่งแบงค์พันให้คุณยาย  วารินรีบกระตุกชายเสื้อเขาทันทีเมื่อเห็นสีหน้าลำบากใจของคนขาย


ยายไม่มีทอนหรอกพ่อหนุ่ม ไม่มีใบย่อยเหรอจ๊ะ แค่ห้าสิบบาทเอง


ไม่มีทอนก็ไม่ต้องทอนหรอกครับ คุณยายเก็บเอาไว้ซื้อเตาใหม่เถอะนะเก่ามากแล้ว เดี๋ยวมันจะแตกใส่ขา แล้วจะบาดเจ็บได้นะครับ


คุณยายคนขายยิ้มกว้างโชว์ฟันที่ค่อยร่อยหรอลงไปมากแล้ว ก่อนที่เขาสองคนจะลุกขึ้นแล้วเดินออกมา ธาราธารไม่ได้ว่าอะไรต่อจากนั้น เขาก้มหน้าก้มตาสนใจถ้วยใบตองที่มีฝักบัวร้อน ๆ วางอยู่


ทำไมไม่ลองกินดูล่ะธาร  ท่าทางจะอร่อยนะ


ผมก็อยากกินนะ แต่คือ....เขาว่าหน้าสลด เรียกให้วารินมองที่มือทั้งสองข้างของเขา ข้างหนึ่งถือถุงผักสารพัดชนิด อีกมือก็ถือถ้วยใบตองนั่นท่าทางจะร้อนเอาการเสียด้วย


เอามานี่มา เดี๋ยวพี่ถือเองวารินจะช่วยถือแต่เขาเบี่ยงของหลบออก


ไม่ต้องหรอกถุงมันหนัก  พี่เอาไอ้เจ้าถ้วยนี่ไปถือทีสิวารินรับถ้วยใบตองมาถือไว้


ป้อนมาสิ อยากกินแล้วเขาไม่ยอมเดินต่อ แต่ทำเสียงดื้อดึงอยากให้วารินป้อน


ไม่เอา หยิบกินเองสิ อีกมือก็ว่างอยู่นั่นไงเรื่องอะไรจะป้อน กลางตลาดน่าอายจะตาย


กินไม่เป็น กินยังไงหยิบกินได้ทั้งอันเลยเหรอ ยังไง ทำยังไง หิว เร็วดิ่


อ้าว สรุปนี่ยังไม่เคยกินเหรอเนี่ย


เขาส่ายหน้าแทนคำตอบ ทำเอาวารินถึงกับงง


ก็เห็นยายแกน่าสงสาร จะให้เงินเฉย ๆ มันก็แปลก ๆ เลยหาเรื่องซื้อของแกไปอย่างนั้นแหละ ของแบบนี้ผมจะไปเคยกินตอนไหนกันล่ะ


จบคำพูดเขาวารินรีบหันหลังให้ทันทีกลัวจะปิดรอยยิ้มไว้ไม่ไหว เขามีด้านที่อ่อนโยนแบบนี้ด้วยหรือไงกัน แอบเก็บนิสัยแบบนี้ไว้ที่ไหนกันนะ


จู่ ๆ มือเล็กยัดขนมฝักบัวหนึ่งชิ้นเต็ม ๆ เข้าใส่ปากเขา


โอ๊ยยยย อ๊ออออออน!!!” เสียงเขาโวยวายทั้งที่มีขนมชิ้นใหญ่ยัดอยู่เต็มปาก


วารินหัวเราะร่าสะใจที่ได้แกล้งคนอย่างเขาเล่น



****************************************************

Unseen >>> Tbc.