Unseen2 (ธารทราย)
ที่ซุปเปอร์มาเก็ต วันนั้นเขาพาวารินออกมาซื้อของใช้
“ธารอยากกินเชอรี่ไหม เดี๋ยวพี่ซื้อกลับไปด้วย” วารินหยิบกล่องเชอรี่สีแดงอมส้มและสีม่วงขึ้นมาให้เขาเลือกดู
“พี่ว่าเอาสีม่วงดีกว่านะ สีแดงมันไม่ค่อยหวาน”
“ผมกินไม่เป็นนะ ถ้าพี่อยากกินก็หยิบใส่มาหรือจะซื้อไปฝากดาวก็ได้” เขาตอบนิ่ง ๆ สายตามองไปที่กล้วยหอมสีเขียวหวีโต
“อยากกินนั่นเหรอ?” วารินถามพลางพยักเพยิดหน้าไปทางผลไม้ที่เขาจับจ้องอยู่
“แต่มันยังไม่สุกสักสองสามวันธารถึงจะกินมันได้” คนตัวเล็กขยับไปหยิบจากชั้นออกมาหนึ่งหวี
“ถ้าอยากกินวันนี้ผมต้องทำยังไง” เขารับจากวารินแล้วค่อยวางลงที่รถเข็นอย่างเบามือ
“วันนี้ยังไม่ได้ มันยังเขียวอยู่เลยธารดูสิ แข็งด้วย”วารินก้มลงไปจิ้ม ๆ แล้วเงยหน้าขึ้นบอกให้เขาดู
"ชอบกินแบบแข็ง ๆ" เขาว่าเสียงนิ่ง
"แข็งๆจะกินเข้าไปได้ยังไง ต้องรอให้มันสุกก่อน "
“ถ้างั้นพรุ่งนี้”
“พรุ่งนี้ก็ยังไม่สุกหรอก อีกสองสามวันได้กินแน่นอน อดใจนิดหนึ่ง เดี๋ยวพี่ซื้อส้มกับมะละกอก่อน” เพราะภัครจิราต้องทานส้มกับมะละกอหลังอาหารทุกมื้อ เขาจึงจะลืมของสำคัญสองอย่างนี้ไม่ได้เด็ดขาด
“พี่บอกเองนะ อีกสามวันได้กินแน่ใช่ไหม?”
ธาราธารยังไม่ยอมจบเรื่องกล้วยหอมลงง่ายๆ วารินจึงเงยหน้าขึ้นไปมองเขาแล้วพยักรับเบา ๆ สายตาเจ้าเล่ห์ที่เขามองลงมานั้นทำให้วารินนึกเอะใจขึ้นมาหน่อยแต่คิดว่าไม่น่ามีอะไรผิดปกติเลยเลือกที่จะไม่สนใจ ยืนเลือกส้มกับมะละกอต่อไป เสร็จแล้วยื่นส่งให้พนักงานเอาไปชั่งน้ำหนัก
“แล้วพี่กินอะไร? เห็นซื้อให้แต่คนอื่น หรือจะกินกล้วยเหมือนกันกับผม ชอบไหมกล้วยหอมน่ะ?”
“ก็ชอบนะ อร่อยดีนี่” วารินตอบไม่ทันคิด พลางรับถุงส้มที่พนักงานชั่งน้ำหนักเสร็จแล้วยื่นส่งให้
“งั้นอีกสามวันกล้วยสุกแล้วเรามากินด้วยกันนะ” เขาว่าพลางยื่นมือไปรับถุงมะละกอจากพนักงานเช่นกัน วารินไม่ได้ใส่ใจกับคำถามของเขามากนักก้มลงจัดของในรถเข็นไม่ให้ของหนักทับของเบา
“ตอบผมก่อนสิ จะมากินด้วยกันใช่ไหม”
“ทำไม?? ถ้าสุกแล้วเดี๋ยวพี่เอาขึ้นไปให้ หรือว่าธารอยากกินมากเราซื้อแบบแบ่งขายไปก่อนไหม มันสุกแล้วด้วยธารจะได้กินวันนี้เลย อ่ะนี่ไง”
มือเล็กหยิบกล้วยแบบแบ่งขายสองลูกติดกันแบบแพ็คถุงสำเร็จยื่นส่งให้
“กินได้วันนี้เลยเหรอ?” เขายื่นมือมารับแล้วถามหน้าตื่น ทำเอาวารินงง จะแปลกใจทำไมนักหนากล้วยเมื่อเหลืองแล้วก็ต้องทานได้กันทั้งนั้น
“ใช่ ถ้าธารอยากกินมากๆเดี๋ยวออกไปกินกันบนรถเลยก็ได้ ซื้อไปสักสี่ลูกเดี๋ยวพี่กินด้วย รองท้องกว่าจะถึงบ้านจะได้ไม่หิวมาก”
“กินบนรถก็ได้แน่เหรอ” เขาถามย้ำ
“ได้สิ รอเดี๋ยวนะ พี่ไปหยิบมะเขือเทศแป็บหนึ่ง ว่าแล้ววารินก็วิ่งไปที่ชั้นช่องเย็นหยิบมะเขือเทศที่ดาวฝากซื้อมาอีกสี่ห้าแพ็ค
“รีบกลับเถอะอยากไปที่รถแล้ว” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้น พอวางมะเขือเทศลงที่รถเข็น เขาก็เร่งให้กลับจะเข็นรถไปจ่ายเงินท่าเดียว
“เดี๋ยวสิ ยังไม่ได้เอาน้ำผึ้งเลย จะรีบไปไหน เข็นรถเข้าไปด้านในเถอะพี่ต้องซื้อน้ำผึ้งไว้ชงให้คุณภัครท่านด้วย”
ใช้เวลาไม่นานนักเขาทั้งคู่ก็เลือกซื้อของใช้ที่จำเป็นตามรายการที่นับดาวเขียนให้จนเสร็จเรียบร้อย
“ธารจะเอาอะไรอีกหรือเปล่า?” วารินหันไปถามคนตัวสูงที่ยืนเข็นรถรอคิวจ่ายเงิน เขาส่ายหัวท่าเดียวแล้วบอกอยากกลับไปที่รถแล้ว
“หิวเหรอ” ลองถามดูเห็นหน้าตาเขาไม่ค่อยดี เหมือนคนรีบร้อนอะไรบางอย่าง
“หิวกล้วย”
เขาตอบกลับมาแบบเรียบๆ ยื่นกระเป๋าสตางค์ส่งให้วาริน
“ใช้ใบไหนก็ได้ ตามใจ” วารินเลือกหยิบการ์ดสีทองขึ้นมา ยื่นส่งให้พนักงาน พอเขาเซ็นต์รับเสร็จเรียบร้อย มือเล็กก็ยื่นกระเป๋าสตางค์ส่งกลับคืนเจ้าของ แต่ธาราธารหยิบการ์ดสีดำยื่นส่งให้เขาแทน
“ทำไม?”
“เอาไว้เวลาซื้อของเข้าบ้าน เผื่อวันธรรมดาผมไม่ได้พามา ใบนี้ไม่ต้องเซนต์ รูดใช้ได้เลยเดี๋ยวผมจะทำเรื่องไว้ให้ อย่าทำหายล่ะ” เขากำชับพร้อมเข็นรถเดินนำคนตัวเล็กไป
“เดี๋ยวธาร! กินขนมปังไหม ของ S&P อร่อยนะ” วารินถามเมื่อผ่านซุ้มขนมปังยี่ห้ออร่อย แต่เขาไม่สนใจตอบตั้งหน้าตั้งตาหน้าเข็ญรถออกไปท่าเดียว จนวารินทั้งวิ่งทั้งเดินตามแทบไม่ทัน
“ธาร!”
เสียงเล็กอุทานดังลั่นพลางใช้มือดันตัวเขาไว้ มีอย่างที่ไหนพอมาถึงรถเอาของเก็บเสร็จสรรพสตาร์ทเครื่องได้เขาก็พุ่งเข้ากอดคนตัวเล็กจนจมมิดไปกับอกกว้าง ๆ ของเขา
“หยุดนะจะทำอะไรน่ะ นี่มันที่จอดรถนะอายคนเขาบ้าง” วารินดิ้นแทบไม่ได้ เขาไม่ยอมลดอ้อมกอดลงเลย
“ไหนว่าพอถึงรถแล้วผมกินได้ไง จะผิดคำพูดเหรอ”
“ผ...ผิดคำพูดอะไร แล้วกินอะไร ธารพูดเรื่องอะไรเนี่ย” จมูกโด่งสวยกำลังจะกดจูบซุกไซ้ลงมาที่ซอกคอขาวเนียน วารินยื้อเขาไว้เต็มที่
“ธาร! ไม่เอานะ เดี๋ยวคนเห็นทำอะไรน่ะ”
“อย่าขัดขืน อยู่เฉย ๆ อย่าทำให้ผมโมโหคิดเรื่องไม่เป็นเรื่องขึ้นมาอีก”
เขาพูดดักทางอย่างเอาแต่ใจไม่ฟังคนปรามเลยสักนิด มือใหญ่บีบเข้าที่คางเล็กก่อนที่เขาจะสอดเรียวลิ้นร้อนแสนร้ายกาจเข้าไปกวาดต้อนชอนไช เอาจนวารินครางฮือ
“อื้ออ..ธาร..” เสียงเล็กอู้อี้ ดวงตากวาดมองไปรอบ ๆ ถึงฟิมล์รถจะทึบมากแต่ที่สาธารณะแบบนี้วารินยังอายมากอยู่ดี
เขาจู่โจมไม่หยุดขณะที่มือข้างหนึ่งเริ่มล้วงเข้าไปลูบไล้แผ่นหลังเนียนนุ่มไปมา มืออีกข้างเริ่มลากต่ำลงมาขยำขยี้อยู่ที่สะโพกสวยทั้งหน้าและหลัง
“ธาร! พอเถอะ”
วารินที่ถูกเขาจูบปิดปากแบบมาราธอนทั้งพูดทั้งจูบเพราะเขาไม่ยอมถอนปากออกไปจะเลี่ยงก็เลี่ยงไม่ได้ตามประกบไว้ตลอด
“พอไม่ได้ ยังไม่ได้กินเลย”
“ก..กินอะไร ธารหมายความว่ายังไง”
“กินกล้วยไง พี่บอกจะให้ผมกินพอถึงรถ” เขาพูดแล้วซุกหน้าลงที่ตักเล็กทันที
“ธาร!”
วารินอุทานดังลั่นหน้าตาตื่นเพิ่งตระหนักได้ว่ากล้วยหอมที่เขาพูดถึงนั้นคืออะไร ทว่าทุกอย่างกลับสายเกินไปเสียแล้ว เมื่อริมฝีปากสวยไม่ต่างจากผู้หญิงของเขาเข้าครอบครองจนคนตัวเล็กบิดแอ่นร่างกายด้วยความเสียวซ่านและรัญจวนใจอย่างที่สุด สองมือเล็กสอดเข้าขยุ้มเรือนผมสีเข้มของเขา ใบหน้าหวานแหงนเงยรับรสความสุขหวานล้ำในยามที่เขาทิ้งความโกรธเกรี้ยวแค้นเคืองไว้ที่ไหนสักแห่ง
...นี่คือประสบการณ์บนรถครั้งแรกของผู้ชายอายุสามสิบสองอย่างเขา...
************************************************
Unseen >>> Tbc.