Unseen-3 (ธารทราย)
-ช่วงสายของวันอาทิตย์-
“นั่งก่อนครับ
พี่อ้อ”
วารินเชิญศศิธรเลขาของภัครจิราให้นั่งลงที่ห้องรับแขกด้านหน้า
ช่วงนี้ทุกๆวันหยุดศศิธรจะต้องหอบแฟ้มงานมากมายมาส่งให้ธาราธารเจ้านายคนใหม่ของเธอดูถึงที่บ้าน
“ดีแล้วล่ะนะที่ทรายมาช่วยดูแลอยู่ที่นี่
คุณธารเองถ้าได้ทรายช่วยชี้แนะเรื่องงานให้
รับรองว่าไม่กี่ปีเก่งได้เท่ากับคุณภัครท่านแน่นอนยิ่งหัวดีอยู่แล้วด้วย”
วารินยิ้มรับ
ขณะนับดาวเดินเอาน้ำกับของว่างเข้ามาให้พอดี ศศิธรจึงขอตัวขึ้นไปเยี่ยมภัครจิรา
พอลงมาก็ถามหาเจ้านายคนใหม่
“คุณธารไปไหนล่ะ?
ทำไมวันนี้ไม่เห็น”
“ธารเขาไปฟิตเนสน่ะครับ
บอกให้ทรายรับงานจากพี่อ้อไว้แทน นี่ก็ออกไปตั้งแต่เช้าแล้ว”
ว่ายังไม่ทันขาดคำ
โทรศัพท์บ้านก็ดังขึ้น นับดาวรับสายแล้วรีบเดินเอามาส่งให้วารินทันที ศศิธรจึงถือโอกาสโบกไม้โบกมือขอตัวลากลับ
“ธารว่าไงนะ?!
จะให้พี่ไปรับรถที่ไหน?” เสียงวารินแหวขึ้นใส่โทรศัพท์เพราะได้ยินไม่ค่อยชัดเขาจึงตะโกนลงไปอย่างดัง
ธาราธารบอกมาว่าให้เขาไปรับรถให้ที่ศูนย์ช่วงบ่ายสี่โมงเย็นแล้วให้ขับไปรับเขาต่อที่สระว่ายน้ำของสปอร์ตคลับที่เขามาใช้บริการอยู่เป็นประจำ
“อาฮะ ได้ๆ”
วารินรับคำเข้าไปจัดแจงเปลี่ยนเสื้อผ้าหยิบกระเป๋าสะพายสีดำส่วนตัวแล้วให้เตโชขับมอไซด์ไปส่งที่หน้าปากซอยเพื่อต่อแท็กซี่ไปรับรถ
ตามคำสั่งของคุณชาย(?) ผู้เอาแต่ใจ
“นานมากกกกกกก!!!”
พอไปถึงเขาก็เกาะขอบสระต่อว่าทันที
วารินใช่ว่าจะหาเขาได้ง่าย ๆ ซะที่ไหน คลับนี้มีสระว่ายน้ำตั้งสามสระ
แต่ละคนดำผุดดำว่ายแถมใส่แว่นดำน้ำกว่าจะเพ่งได้คนไหนคือใครเล่นเอาเขาเหงื่อตก คนตัวเล็กเบ้หน้าใส่อย่างเซ็ง เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายยังไม่มีวี่แววจะขึ้นจากสระง่าย
ๆ ยังคงดำผุดดำว่ายไม่เลิก เลยนั่งนึกอะไรเพลิน ๆ
เขาออกกำลังกายแบบไหนกันนะมาเข้าฟิตเนสตั้งแต่เช้าจนถึงเย็นยังมาว่ายต่ออีก
วารินคิดได้แบบนั้นจึงตระหนักได้ว่า มิน่าล่ะรูปร่างเขาถึงดูดีได้ขนาดนั้น
พลางคิดในใจวางแผนว่าตัวเองคงจะต้องแวะมาออกกำลังกายเสริมรูปร่างบ้างแล้วเนื้อหนังจะได้เพิ่มขึ้นบ้าง
ตุ่บบบ!!!!
ขณะกำลังนั่งคิดเพลินไปเรื่อย ๆ ผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่ก็ตกพาดลงที่ไหล่เล็ก วารินรีบรับเอาไว้เกือบไม่ทัน ธาราธารที่เดินขึ้นมาจากสระตอนไหนไม่รู้ จู่ ๆ ยืนโชว์รูปร่างเปลือยเปล่าที่ถูกห่อหุ้มไว้แค่กางเกงว่ายน้ำสีดำตัวจิ๋วชิ้นเดียวเท่านั้น
วารินเงยหน้ากวาดตามองไปที่แผงอกฟิตเปรี๊ยะของเขา สร้อยทองคำขาวเส้นเล็กแขวนจี้รูปกุญแจซอลยังอยู่ในตำแหน่งเดิมบัดนี้หยดน้ำพราวเกาะอยู่ที่ตัวจี้สะท้อนกับไฟที่ขอบสระจับเป็นแสงวิบวั๊บ สายตาลากต่ำลงมาจนถึงขนอ่อนรำไรที่หน้าท้องแบนราบนั่น พลันความคิดแว๊บหนึ่งดันเผลอไปคิดเรื่องทะลึ่งขึ้นมา หน้าเน่อพลอยเห่อจนแดงไปหมด
“เป็นอะไรหน้าแดงเชียว ร้อนเหรอ
แดดร่มแล้วนี่” เขาว่าพลางยกผ้าเช็ดตัวขึ้นเช็ดหน้าเช็ดผมอย่างลวก ๆ วารินมองดูเขาดี ๆ อีกที
ร่างกายเขาสวยงามมากจริง ๆ ไม่ห่วงหล่อแถมยังไร้ยางอายมากด้วย
“ป...เปล่า
ธารไปล้างตัวสิจะได้กลับกัน” รีบแก้ตัวตะกุกตะกักแทบไม่ทันเฉไฉสายตาไปทางอื่นกลบเกลื่อนความคิดน่าอายของตนเอง
“ยังก่อน
เดี๋ยวจะลงอีกรอบ ลงไปด้วยกันไหม”
“ไม่อ่ะ
พี่ว่ายน้ำไม่เป็นแล้วก็ไม่มีกางเกงว่ายน้ำด้วย”
ทว่าพอเขาได้ยินแค่นั้นกลับฉุดมือเล็กให้ลุกขึ้นทันที
ลากเดินไปเลือกหยิบกางเกงว่ายน้ำใหม่เอี่ยมที่อยู่ในเชลล์ขายสินค้าแล้วลากคนตัวเล็กไปเปลี่ยนชุดที่ด้านใน
“ธาร! ไม่เอาหรอก พี่ว่ายไม่เป็นนะ”
“เดี๋ยวพาเล่น
ไม่จำเป็นต้องว่ายหรอก พี่ตัวเล็กนิดเดียวหัดออกกำลังเสียบ้างร่างกายจะได้ฟิต ๆ
เวลาผมพาทำอะไรนาน ๆ จะได้อึดๆหน่อย ไม่ใช่ฟิตอยู่แต่ที่เดียว.........ตรงนั้นน่ะ”
เขาตีคิ้วส่งสายตาเจ้าเล่ห์พยักเพยิดหน้าไปที่สะโพกสวยของวาริน
“ธาร! พูดอะไรน่ะ”
วารินต่อว่าเขาเสียงเขียวหน้าแดงก่ำ
รีบมองซ้ายมองขวากลัวจะมีคนได้ยิน ไม่คิดว่าเขาจะพูดเรื่องน่าอายแบบนี้ออกมาได้ ใจหนึ่งก็กลัวจะโดนเขาแกล้งอีกใจก็อยากจะให้มันเสร็จๆจบๆไป
วารินเลยยอมเข้าไปเปลี่ยนชุดแต่โดยดี ขณะที่เขายืนรออยู่ด้านนอกพอเปิดประตูออกมาเท่านั้น
เขารีบคลุมผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่ลงที่ไหล่เล็กให้
พาออกไปไขล็อคเกอร์ส่วนตัวจับเสื้อผ้าและกระเป๋าของวารินวางไว้ในนั้น
ดึงแขนคนตัวเล็กออกมาที่ด้านนอกวารินรีบชักมืออกเพราะเริ่มเย็นคนก็เริ่มเยอะ
แต่เขากลับกระชับฝ่ามือแน่นยิ่งขึ้นกว่าเดิม เขาให้วารินลงสระที่บันไดขณะที่ตัวเองกระโดดลงที่ข้าง
ๆ อย่างง่ายดาย ธาราธารตัวสูงมากหน้าอกเขาจึงพ้นน้ำขึ้นมาขณะที่วารินโผล่พ้นน้ำมาแต่หัวเท่านั้น
ธาราธารแอบหัวเราะขำในความเตี้ยของคนข้าง ๆ
“ผมพี่ยาวขึ้นแล้วนะ
ไม่มียางมัดไว้หรือไง” เขาถาม
วารินได้แต่ส่ายหัวปฏิเสธ
จะให้ทำไงล่ะใครจะไปรู้ว่าจะได้ลงสระไม่ได้เตรียมอุปกรณ์อะไรมาสักอย่าง แต่แล้วจู่
ๆ เขาก็ว่ายพุ่งออกไปที่กลุ่มผู้หญิงกลุ่มหนึ่ง คุยอะไรกันไม่รู้สักพักก็ว่ายกลับมา
“หันหลังมานี่มา”
เขาว่าพลางจับวารินหันหลังมาหาแล้วใช้เชือกมัดผมรวบผมให้คนตัวเล็กอย่างระมัดระวัง
วารินยิ่งกว่างงว่าเขาไปเอาเชือกรัดผมแบบนั้นมาจากที่ไหน
จึงมองไปที่ผู้หญิงกลุ่มนั้นที่บัดนี้มองพวกเขาสองคนแล้วส่งยิ้มกว้างโบกมือมาให้ทั้งกลุ่ม
“รู้จักคนเยอะดีนี่”
วารินแกล้งว่าใส่
“ธรรมดา
มาว่ายบ่อย” เขาว่าเรียบ ๆ แล้วดึงแขนเล็กจะพาว่ายออกไป วารินรีบเกาะราวบันไดไว้แน่น
ส่ายหัวปฏิเสธพัลวัล
“ไม่เอาธาร! พี่ว่ายไม่เป็น” ใบหน้าเล็กออกแววกังวลสุด ๆ
ยึดเหล็กราวบันไดไว้แน่นยิ่งกว่าเดิมเป็นเท่าตัว
“ธารไปว่ายเถอะ
พี่แช่ตัวรออยู่แถวนี้” เขาปล่อยมือวารินออกแล้วเลื่อนไปจับที่สองไหล่บาง
จ้องลงไปที่ดวงตากลมโตนั่น บัดนี้สั่นไหวด้วยความกลัว
“เชื่อใจผมสิ
ผมไม่พาพี่จมหรอกนะ ส่งมือมาเกาะบ่าผมไว้”
เขาว่าแล้วยืนหันหลังให้
วารินมองแผ่นหลังกว้างกำยำของเขาอย่างชั่งใจ นานจนเขาต้องหันกลับมามองอีกรอบ
“เชื่อใจผม...นะ”
เขาย้ำหนักแน่น
ปากเล็กเม้มชั่งใจต่ออีกครู่หนึ่ง
ในที่สุดยอมทิ้งร่างทั้งร่างเกาะแผ่นหลังเขาไว้จนแน่น
มือเล็กเอื้อมไปกอดคอเขาไว้เอาให้แน่นที่สุด เพราะกลัวจะตก ธาราธารหันมามองนิดหนึ่งก่อนพุ่งออกไปที่กลางสระ
วารินตัวเกร็งหลับตาแน่นไม่ยอมมองรอบข้างหรือใครอะไรอีกแล้ว
ภาวนาให้เขาอารมณ์ดีอย่าแกล้งกันก็พอ
“ปล่อยตัวตามสบาย
ให้กระแสน้ำพาร่างกายลอยขึ้น.....อย่าเกร็ง...ตัวพี่จะเบาแล้วมันจะลอยไปเอง”
เขาหันมาบอกทริค
วารินลองทำอย่างที่เขาบอก ปล่อยขาให้ไหลลอยไปตามกระแสน้ำเอื่อย
พอเขาเห็นว่าคนตัวเล็กไม่เกร็งแล้วจึงพาว่ายไปที่ส่วนน้ำลึกขึ้นอีกนิด
“จับดี
ๆ นะ เดี๋ยวผมจะพาดำลงไป ให้ค่อย ๆ ปล่อยลมหายใจออกทางปากเท่านั้น
ทำตามสัญชาตญาณ”
วารินทำตาม
เขาพาคนตัวเล็กเกาะที่แผ่นหลังกว้าง แล้วดำลงสู่ใต้พื้นสระครู่หนึ่งก็โผล่พ้นน้ำเพื่อมาโกยเอาอากาศจากนั้นก็ดำลงไปอีกครู่หนึ่ง
ดูไปดูมาคล้ายปลาโลมากำลังดำมุดดำว่ายเล่นน้ำไม่มีผิดเพี้ยน
“พี่เหนื่อยไหม เหนื่อยหรือยัง?”
“ยังเลย
ต่ออีกหน่อยสิ”
วารินรู้สึกสนุก
คราวนี้เขาพามุดดำลงไป ชี้บอกให้วารินเก็บใบไม้ที่ใต้น้ำพอมือเล็กเอื้อมไปหยิบ
เขาก็แกล้งมุดออกจากวงแขนที่เกาะเขาไว้ทันที
วารินใจหายวาบตกลงที่ก้นสระอย่างรวดเร็ว ก่อนที่มือใหญ่ของเขาจะเข้ามาคว้าดึงคนตัวเล็กเข้าไปจูบประกบลงที่ริมฝีปากเพื่อถ่ายทอดลมหายใจแบ่งปันอากาศและพาขึ้นพ้นผิวน้ำ
น้ำหูน้ำตาคนตัวเล็กไหลอื้อ
ไอค่อกๆแค่กๆ สำลักน้ำแสบคอแสบจมูกไปหมด
“ธารใจร้าย! ทำแบบนี้ทำไม”
เขาประคองเอวบางไว้ขณะที่วารินกอดคอเขาไว้แน่นเพราะขายืนไม่ถึง
เขายังไม่ยอมพาว่ายกลับมาที่จุดน้ำตื้น
“ชอบเห็นคนร้องไห้
มีความสุข” เขาว่าแล้วยิ้มร้าย
“ธารบ้า! บ้าที่สุด”
วารินต่อว่าขณะที่เขาหมุนตัวกลับมือเล็กรีบเกาะบ่าแล้วเอื้อมไปกอดคอเขาไว้แน่นเขาพาว่ายมุดว่ายมุดเล่นกันต่อรอบสระหลายรอบจนพอใจ
กว่าจะได้เข้าไปล้างตัวก็เกือบ ๆ สองทุ่ม
“หันมานี่เดี๋ยวผมไดร์ให้”
ที่ห้องเปลี่ยนชุด เขาแย่งไดร์เป่าผมมาเป่าให้แทน
ขณะที่วารินค้นหาหวีในกระเป๋าต่อแต่ก็ไม่เจอ
“ผมไม่มีหวีนะ
ไม่ต้องถามหา ใช้มือเสยๆก็เสร็จแล้ว” เขาพูดอย่างคนที่หล่ออยู่แล้วเลยไม่ต้องพึ่งพาหวี
แต่วารินนี่สิ? เลยต้องใช้นิ้วมือสาง ๆ เอาแทน
“ผมพี่ยาวจวนจะถึงไหล่แล้ว
เดี๋ยววันหลังพาไปตัดดีไหม”
“ไม่เอา
พี่จะไว้ให้มันยาวอีกหน่อย”
“ทำไม?? ทำไมต้องไว้ยาว ๆ”
เสียงเขาเริ่มเครียดขณะคิดในใจวารินจะไว้ผมยาวไปเพื่ออะไร??
คิดจะไว้ไปอวดให้ใครดู??
“ผมถามก็ตอบสิ
ทำไมต้องไว้ยาว ไหนบอกเหตุผลมาซิ” เขาวางไดร์เสียบลงที่ช่องเก็บ เอนตัวพิงเคาน์เตอร์จ้องหน้าถามหน้าตาเอาเรื่องสุดขีด
วารินไม่เข้าใจว่าเขาจะซีเรียสไปทำไม
“ช่างพี่เถอะน่า
พี่ชอบของพี่แบบนี้ธารไม่เกี่ยวสักหน่อย”
“พูดใหม่!”
เขาว่าเสียงแข็ง
“ธาร!” วารินร้องเสียงหลงตกใจที่จู่ ๆ
เขาก็คว้าหมับเข้าที่ข้อมือเล็กแล้วบีบ
“ธาร! พี่เจ็บ จู่ ๆ เป็นอะไรน่ะ”
“เมื่อกี้
พี่พูดว่าผมไม่เกี่ยวใช่ไหม??”
“ม...ไม่ใช่แบบนั้น
แค่เรื่องตัดผมเอง”
“ตอบมาก่อนสิ
ทำไมต้องไว้ยาวหรือจะเอาไปอวดใคร อย่าคิดโกหกไม่งั้นผมจัดหนักพี่แน่คืนนี้!”
“ธาร!”
“พูดมา!”
วารินหน้ายู่หมดหนทางจำใจต้องเอ่ยความจริงทั้งที่อายจนแทบบ้า
“ก็เวลา....นั่นน่ะ
ธารชอบเล่นผมไม่ใช่หรือไง ถ้ามันยาวขึ้นอีกหน่อยจะได้จับถนัดๆใช่ไหมล่ะ”
ยิ่งกว่าเสียงพลุเฉลิมฉลองเทศกาลรักร้อยวาเลนไทน์
จิตใจแข็งแกร่งของเขาพลันอ่อนยวบกับคำตอบของคนตรงหน้าทันที
ธาราธารถึงกับยิ้มไม่หุบ กลีบกุหลาบแสนหวานเป็นร้อยล้านพันดอกไหนเลยจะสู้คำบอกกล่าวของคนตรงหน้าเพียงหนึ่งประโยคนี้ได้
เขาโอบเอาเอวบางแล้วพาเดินออกไปที่ด้านหน้า
พอถึงรถเขาคร่อมคนตัวเล็กไว้ที่ประตูจนจมมิด จ้องลงที่ใบหน้าน่ารักนั่น
“ที่พี่พูดเมื่อกี้นี่
พูดจริง ๆ ใช่ไหม” เขาถาม ทั้งคำพูดและสายตา
วารินไม่รู้จะตอบอะไรยังไง จึงเผลอทำสิ่งที่แม้กระทั่งตัวเองยังตกใจแทนคำตอบให้เขาเสียเลย มือเล็กเกาะเข้าที่สองบ่าแกร่ง ขณะที่ปลายเท้าเขย่งขึ้นเพื่อใช้ปลายจมูกรั้นเสยลงที่ปลายจมูกโด่งของเขาเบา ๆ ทว่าตั้งใจ..... ท่าทางแบบนั้นมันช่างยั่วยวนเขาได้ดีมากเหลือเกิน ธาราธารอดใจไม่ไหวกอดรัดเอาเอวบางเข้ามาแนบลำตัว
ซุกปลายจมูกโด่งฝังลงที่แก้มเนียนนุ่มนั่นแล้วเปิดประตูรถส่งคนตัวเล็กเข้าไปด้านในทันที
วารินแก้มแดงเห่อ
ยังตะลึงกับการกระทำของตัวเองไม่หาย (ทำไปได้ไง??)
ระยะทางจากสปอร์ตคลับจนถึงร้านอาหารที่เขาพาวารินมาทาน
ถือว่าไกลมากโขอยู่ แต่เชื่อไหมว่าเขายังไม่สามารถหยุดรอยยิ้มปลาบปลื้มที่บานอยู่ในใจลงได้เลย
“คืนนี้เอากาแฟขึ้นไปให้ผมด้วยนะ”
เขาโน้มใบหน้าเข้ามาใกล้แล้วว่าเสียงพร่าต่ำ ส่งสายตาเจ้าชู้สุดๆให้กับคนข้าง ๆ
วารินที่หน้าแดงปลั่งเป็นทุนเดิมอยู่แล้วทั้งโกรธทั้งอาย
...บ้า! ใครจะเอาขึ้นไปให้กันว่ายน้ำก็เหนื่อยจะแย่อยู่แล้ว...
........บางทีเขาก็ทำเหมือนกับว่า
เราสองคนไม่เคยผิดใจอะไรกันเลยสักนิดเดียว........
************************************
Unseen >>> Tbc.