Unseen Special ธารทราย – เวอร์ชั่นคุมคาแรคเตอร์ไม่อยู่
(พิเศษให้วันสงกรานต์)
“ไม่ให้ไป”
เขาว่าแล้วปิดตำราแพทย์เล่มโตที่วางอยู่บนตัก
มือขาวสะอาดถอดแว่นสายตาใสวางลงที่โต๊ะรับแขก ไขว่ห้างมองหน้าคนพูดนิ่ง
ๆ
“แป็ปเดียวก็กลับแล้ว
พี่ไม่ได้เจอเพื่อน ๆ ตั้งนาน ช่วงนี้หยุดยาวพวกเราเลยนัดเจอกันครบทีม
จะขาดพี่ไปได้ยังไงล่ะโดนต่อว่าเละแน่” วารินที่นั่งอยู่ตรงข้ามเขายู่หน้า
“โดนเพื่อนพี่ต่อว่ากับโดนผมต่อว่า
ไม่อยากโดนอันไหน” เขาจ้องหน้า เหมือนจะคั้นเอาคำตอบเสียให้ได้
‘ไม่อยากโดนเพื่อต่อว่าสิวะ! ไอ้เด็กคนนี้นี่
ชักจะเหลืออดแล้ว!’ วารินคิดในใจ
“ไม่เอาน่าธาร
พี่รู้ธารเป็นเด็กมีเหตุผล ครั้งนี้กว่าพวกพี่จะรวมตัวกันได้นัดกันมาเป็นเดือนๆเชียวนะ”
ธาราธารชั่งใจครู่หนึ่ง
เพราะวารินชมว่าเขาเป็นเด็กมีเหตุผล ครั้นจะเอาแต่ใจเกินไปนักเดี๋ยวอีกฝ่ายจะพาลถอนคำชมออกไป
“แล้วจะกลับกี่โมง”
เขายกข้อมือดูเวลา ตอนนี้ ทุ่มกว่าแล้ว
“ไม่เกินตีสองหรอก”
“ตีสอง!?” เขาทวนคำเสียงดังจ้องวารินอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อ
“ก็แหมธาร
ผู้ชายอ่ะ เจอกันก็มีเรื่องโน้นเรื่องนี้ต้องคุยกันดิ
ไหนจะต้องดื่มกินกันอีก แล้วก็...”
“แล้วก็จะไปต่อเรื่องผู้หญิง
งั้นใช่ไหม”
“ใช่ที่ไหนเล่า! เพ้อเจ้อไปใหญ่แล้ว”
“แล้วไปทำไร
ทำไมต้องนานขนาดนั้น แค่นั่งคุยกันชั่วโมงเดียวก็น่าจะเสร็จ”
“หูยน้องธารครับ
ใครมันจะไปสังสรรค์กับเพื่อนแค่ชั่วโมงเดียวกันเล่า
เหล้ายังลงคอได้ไม่ถึงครึ่งขวดเลย”
“อะไรนะ! นี่จะกินเหล้าด้วยเหรอ??” หลังเขาไม่ติดเบาะแล้ว
จ้องหน้าวารินหาเรื่องสุด ๆ
“เปล่าๆ พูดเล่นๆ แค่เปรียบเทียบน่ะ เปรียบเทียบ”
วารินถึงกับปาดเหงื่อ
เกือบพูดเรื่องจริงที่ยังไม่เคยมีใครรู้มาก่อนของเขาก็คือ หากไปดื่มกับเพื่อนที่ถูกใจและคุยกันถูกคอ
เขาจะดื่มได้เต็มที่มาก ดื่มเฉพาะเหล้าเพียว ๆ ด้วย
ส่วนสปายวายอะไรนั่นอย่าไปพูดถึงเด็ดขาด กลุ่มพวกเขาไม่มีใครแตะกันสักคน มันแพงรสชาติก็งั้น
ๆ สู้กระดกน้ำขม ๆ ดีกว่ากันเยอะ ไอ้พวกเพื่อน
ๆ แต่ละคนก็นะ.......แฮะๆ เด็กวิดคอมฯ ก็งี้แหละ
“จะเชื่อได้ไหมเนี่ย”
เขาหรี่ตามองคนตรงหน้า ยกแว่นสายตาขึ้นมาสวมอีกครั้ง “มานี่ดิ๊ นั่งใกล้ ๆ ผมนี่”
“ทำไม”
วารินลุกมานั่งข้างเขา
“หกทุ่ม”
เขาต่อรอง หันมองกันใกล้ ๆ เหมือนกำลังสำรวจอะไรบางอย่าง
“โหยยธาร
สามทุ่มเหอะงั้นน่ะ” วารินว่าประชด
“ตกลงสามทุ่ม”
“ไม่ใช่ๆ
ๆ ตีหนึ่งๆ โอเคตามนั้นแหละ” วารินยอมถอยลงมาให้เขาหนึ่งชั่วโมง ว่าเสร็จแล้วก็จะลุกเลยแต่เขาดึงเอาแขนเล็กไว้
“แล้วคืนนี้ใครจะชงกาแฟขึ้นมาให้ผม”
ช่วงนี้วารินต้องชงกาแฟขึ้นมาให้เขาเกือบทุกคืนที่เขาค้างที่บ้าน
“ให้ดาวชงขึ้นมาให้ก่อนก็ได้นี่
”
“มันเหมือนกันที่ไหน! กาแฟที่พี่ชงกับกาแฟที่ดาวชง”
อย่ามาทำเป็นไม่รู้หน่อยเลย
“งั้นเดี๋ยวพี่ชงไว้ให้ก่อนออกไป
ดึกๆค่อยให้ดาวเอาขึ้นมาให้ธารแบบนั้นดีกว่าไหม” วารินทำซึนไม่รู้ว่าเขาหมายความถึงอะไร
เขายกนาฬิกาดูอีกที
คิ้วเข้มขมวดครุ่นคิด “งั้นเอาขึ้นไปให้ตอนนี้
ผมจะกินกาแฟก่อนพี่ออกไปงานเลี้ยงรุ่น”
“เอาแบบนั้นก็ได้
ธารขึ้นไปรอเลย พี่ชงเสร็จแล้วเดี๋ยวเอาขึ้นไปให้”
กาแฟหอมกรุ่นถูกบรรจงวางลงบนโต๊ะ
วารินสวมเสื้อยืดคอปาดสีดำ กางเกงยีนส์สีอ่อนขาดรุ่งริ่งที่ขาทั้งสองข้างตั้งแต่หัวเข่าไล่ขึ้นมาจนถึงขาอ่อน
ธาราธารวางหนังสือลงบนโต๊ะทันที เขาไล่สายตามองคนตรงหน้าตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างไม่อยากจะเชื่อ
“แต่งตัวอะไรแบบนั้น
ไปเปลี่ยนใหม่ ไม่งั้นไม่ต้องไป” วารินก้มมองตัวเอง
“แบบนี้ก็ดีแล้วนี่
ธารอย่าบอกว่าจะให้พี่ใส่สแลคกับเสื้อยืดคอปกเหมือนเหมือนทุกวันนะ”
“แบบนั้นมันก็เรียบร้อยดีไม่ใช่หรือไง
นี่อะไรวัยรุ่นเหรอเรา อายุเท่าไหร่แล้วครับพี่ทราย” เขาว่าประชด
“อย่ามาพูดเรื่องอายุนะ!”
วารินแหวใส่เสียงดังจนธารเงิบไปเลย
จะว่าเขาเรื่องอะไรไม่แสลงใจเท่าเรื่องอายุเลยสักครั้ง หนอยยย เห็นยอมเข้าหน่อยกดเอา ๆ
“ห้ามพูดเรื่องตัวเลข
ดูกันที่หน้าตาสิ!”
อายุเขาสามสิบสองแต่หน้าเขาแค่ยี่สิบสี่เท่านั้นแหละ
วารินมั่นใจ!
“ท..โทษที ผมไม่ได้ตั้งใจว่าสักหน่อย แต่ไม่อยากให้พี่แต่งแบบนี้อ่ะ
แล้วนี่ดูซิ รวบผมแบบนั้นทำไม? รวบครึ่ง ๆ
กลาง ๆ มันดูเซอร์ๆไปนะผมว่า ใช้ดินสอไม้เสียบไว้อีกคืออะไรกันเนี่ย!”
ธาราธารเริ่มหน้าเสียเมื่อเห็นวารินชักสีหน้าจริงจังตอนเขาแกล้งว่าเรื่องอายุ
แล้วทรงผมมัดรวบไม่หมดแบบนี้มันดูเซ็กซี่เอามากๆ
“ช่างพี่เหอะน่า
เมื่อก่อนพี่ก็แต่งแบบเนี๊ยะ” เด็กวิดคอมฯ จะอะไรนักหนากับเสื้อผ้า พอมาทำงานเป็นเลขามันเลยต้องดูผู้ดีเรียบร้อยน่าเชื่อถือไง
เลยกลายเป็นผู้ชายบูติคไปซะงั้น
เขามองดูวารินอีกครั้ง
ถอนหายใจอย่างขัดใจไม่ได้ เรียกให้เดินเข้ามาใกล้ ๆ ตัวเขาเปิดลิ้นชักโต๊ะหยิบกุญแจรถส่วนตัวส่งให้
“เอารถผมไปใช้
ถ้าเมามากขับกลับไม่ไหวให้โทรมานะ อย่าขับกลับเองเด็ดขาดเข้าใจใช่ไหม”
อย่าคิดว่าวารินจะปฏิเสธ
มีรถสบาย ๆขับแบบนี้ใครจะไม่อยากได้กัน คนตัวเล็กเดินเข้าไปใกล้เขาทันที
ขณะจะเอื้อมมือไปรับกุญแจ ธาราธารยักไว้หน่อยหนึ่งยังไม่ยอมส่งให้ในทันที วารินจึงเลิกคิ้วเป็นเชิงสงสัย
“อะไร?”
“เข้ามาใกล้
ๆสิ เดี๋ยวบอก” เขาใช้สายตาดึงดูดวารินให้เอียงใบหน้าเข้าหา
“จูบขอบคุณผมหรือยัง”
เขาว่าจบ ไม่รอให้อีกคนแสดงปฏิกิริยาอะไรทั้งสิ้น
รวบเอาใบหน้าเล็กด้วยสองมือแล้วกดจูบสอดปลายลิ้นเข้าไปในโพรงปากนุ่มนิ่มทันที
วารินที่กำลังตกใจเกือบจะต่อต้านผลักเขาออกไปแล้วแต่ก็ยังยั้งสติไว้ได้
เพราะรู้ว่ากับธาราธารยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ ยิ่งอยากทำ เพราะงั้นคราวนี้เขาเลยปล่อย
อยากจูบยาวแค่ไหนก็ปล่อยให้จูบได้เลยตามสบาย เสร็จแล้วจะได้ปล่อย ๆ
ให้เขาออกไปพบปะเพื่อนฝูงเขาเสียที
แต่เห็นทีคราวนี้วารินจะประเมินเขาผิดพลาดมากไปหน่อย
จูบของธาราธารไม่เพียงแต่มาราธอน แต่ยังสร้างความรู้สึกหลากหลายทางอารมณ์ให้กับเขาอีกด้วย
มือใหญ่ค่อยรั้งคนตัวเล็กให้ชิดเข้ามาเรื่อย
ๆ ขณะที่ริมฝีปากยังทำหน้าที่ของมันไม่ขาดช่วง
ร่างกายวารินถูกกอดรัดจนเสียสมดุลและเอนล้มลงบนตักของเขา
เสียงเขาครางต่ำอย่างคนพออกพอใจ วารินไม่ชอบที่จะได้ยินเสียงต่ำลึกโทนนี้ของเขาเลย
โดยเฉพาะเวลาที่ใบหน้าเขาสองคนอยู่แนบชิดกันแบบนี้ เพราะมันทำให้วารินสติกระเจิดกระเจิงอยู่ทุกครั้ง
“ธาร.....
ธารพอแล้ว” มือเล็กดันใบหน้าเขาออก
หอบหายใจถี่ พยายามจะลุกออกจากเขา “พอแล้วเดี๋ยวสาย
พี่นัดเพื่อนไว้สามทุ่ม”
“ยี่สิบนาที
คราวนี้จะเร่งให้” จู่ ๆ เขาว่าแล้วจับวารินลุกออก ตัวเขาเองก็ลุกขึ้นปลดกระดุมเสื้อตัวเองลง
“เฮ้ย! ไม่เอานะธาร”
วารินไม่อาจรับรู้ได้ว่าเขารวดเร็วแค่ไหนเพราะว่าตอนนี้ร่างสูงใหญ่ยืนตระหง่านเปลือยโชว์หุ่นอยู่ต่อหน้ากันแล้วเรียบร้อย
“พี่ถอดสิ
เร็วหน่อยจะได้ไม่เสียเวลาหรือจะให้ผมถอดให้ดี เอาแบบนั้นก็ได้ มานี่มา”
เขาไม่พูดเปล่า
เดินเข้าหาทันที วารินถอยกรูแทบไม่ทัน แผ่นหลังบางชิดผนังแล้ว
“ชู่วว์ ไม่ดื้อนะ ถ้าไม่อยากเสียเวลาว่าง่าย ๆ
ยี่สิบนาทีเสร็จผมสัญญา”
“...ธาร...”
“....ร้อน....ผม
‘ร้อน’
ใช่ไหม จับดูสิ”
เขาจับมือเล็กเข้าแนบชิด
ส่วนตัวเขาค่อยโน้มริมฝีปากอุ่นร้อนปะพรมจุมพิตไปทั่วซอกคอขาว วารินตัวอ่อนแทบจะละลายพูดอะไรไม่ออกอีกต่อไปเมื่อ
ริมฝีปากร้ายลากไล้ขึ้นมามอบสัมผัสร้อนรุ่มเข้าที่ริมฝีปากสวย
.....ยี่สิบห้านาทีหลังจากนั้น
เขาเลทไปนิดหน่อยเนื่องจากยีนส์ที่วารินใส่เป็นเดฟรัดรูปเอามากๆ กว่าจะถอดกันได้แทบลากเลือด...
“บอกว่าสายแล้ว
ๆก็ไม่เชื่อ ธารนี่จริง ๆ เลยจะตามมาทำไมกัน จอดตรงนี้แหละ จอดตรงนี้”
วารินชี้
ๆ ว่าตัวเองจะลงตรงไหน ที่ผับดังเขากำลังจะก้าวลงจากเบนซ์สปอตสีขาวสวย ผู้คนที่นั่งอยู่โซนด้านนอกต่างมองกันเป็นตาเดียว
“อะไรอีกอ่ะ”
เมื่อโดนรั้งแขนไว้จึงหันกลับไปถาม
“รวบผมใหม่ซะ
หลุดลุ่ยหมดแล้ว”
“ก็เพราะใครกันล่ะ”
“แล้วไม่ชอบหรือไง
เห็นร้องเสียงดังเชียว”
เขาว่าแล้วยิ้มวารินมองเขาตาเขียว
ต่อยแขนเขาไปทีแบบแรง ๆ ธาราธารร้องโอ๊ยขึ้นดังลั่น
“หมัดหนักเหมือนกันนะเนี่ย”
เอ๊า
แน่นอน! ที่เห็นว่ายอมๆอยู่ทุกครั้งนี่ก็เพราะว่าตัวเองผิดหรอกนะ
ถ้าไม่ผิดฝันเหรอจะได้มาลากมาดึงกันแบบนั้น กูก็มีมือมีตีนเฟ้ย
“โน่นไง
พวกเพื่อน ๆ พี่นั่งกันอยู่โต๊ะนั้นไงริมสะพานน่ะ กลุ่มใหญ่ ๆ ผู้ชายล้วนธารเห็นไหม”
วารินชี้ ๆ ให้เขาดูธาราธารเพ่งตามองตาม
“กลุ่มที่เซอร์ๆนั่นน่ะเหรอ
ที่มีคนหัวฟู ๆ ด้วย”
“ใช่
ๆ นั่นแหละ อย่าไปว่าให้มันได้ยินนะ นั่นน่ะไอ้เฮี๊ยก มันเป็นตัวโจ๊กของคณะเชียว”
“นี่ถามจริงพี่เรียนจบอะไรมาอ่ะ?”
เขาเริ่มสงสัย กลุ่มที่วารินชี้ให้ดู มันแปลก ๆ กันทั้งกลุ่ม
“วิดคอมทำไม?”
“วิทยาศาสตร์คอมฯ??”
“เปล่า….วิศวคอมฯ ลาดกระบัง(วะ)ครับคุณน้องธาร”
!!!!!!!
ธาราธารกลืนน้ำลายอึ่กใหญ่
..............ไม่อยากจะเชื่อ!!!
“ไปนะ
พวกมันมาครบกันแล้วมั้ง” วารินคว้าสายกระเป๋าสีดำคาดใส่ไหล่
“ตีหนึ่ง
เดี๋ยวผมมารับ”
“ครับธาร
เจอกัน”
แค่ท่าทางการเดินก็ยังเปลี่ยนไป ดูลุคเซอร์ๆ ยังไงไม่รู้
เขามองคนที่กำลังก้าวเดินเข้าไปโบกไม้โบกมือให้กับเพื่อน
ๆ ทั้งฝูง พอเข้าไปถึงเท่านั้น ปากเล็ก ๆ โดนยัดบุหรี่ลงทันที วารินจับสูบแล้วพ่นควันใส่หน้าไอ้คนหัวฟูที่น่าจะชื่อเฮี๊ยกอย่างทะเล้น
อีกฝ่ายถึงกับคว้าคอเล็กเอามาโบกหัวเข้าอย่างแรงหนึ่งทีแล้วคว้ากันนั่งลงแถว
ๆ หัวโต๊ะ ธาราธารส่ายหน้าอย่างระอาใจ
นี่คือตัวจริงๆ ของวารินใช่ไหม?????
*************************************************************
Unseen >>> Tbc.