Saturday, April 12, 2014

..พี่เลี้ยง..THE DAY' I was your man(Yaoi-drama) Unseen Special



Unseen Special  ธารทราย เวอร์ชั่นคุมคาแรคเตอร์ไม่อยู่    (พิเศษให้วันสงกรานต์)




“ไม่ให้ไป”


เขาว่าแล้วปิดตำราแพทย์เล่มโตที่วางอยู่บนตัก  มือขาวสะอาดถอดแว่นสายตาใสวางลงที่โต๊ะรับแขก ไขว่ห้างมองหน้าคนพูดนิ่ง ๆ


“แป็ปเดียวก็กลับแล้ว พี่ไม่ได้เจอเพื่อน ๆ ตั้งนาน ช่วงนี้หยุดยาวพวกเราเลยนัดเจอกันครบทีม จะขาดพี่ไปได้ยังไงล่ะโดนต่อว่าเละแน่” วารินที่นั่งอยู่ตรงข้ามเขายู่หน้า


“โดนเพื่อนพี่ต่อว่ากับโดนผมต่อว่า ไม่อยากโดนอันไหน” เขาจ้องหน้า เหมือนจะคั้นเอาคำตอบเสียให้ได้
       
             

                    ‘ไม่อยากโดนเพื่อต่อว่าสิวะ!  ไอ้เด็กคนนี้นี่ ชักจะเหลืออดแล้ว!’ วารินคิดในใจ  




“ไม่เอาน่าธาร พี่รู้ธารเป็นเด็กมีเหตุผล ครั้งนี้กว่าพวกพี่จะรวมตัวกันได้นัดกันมาเป็นเดือนๆเชียวนะ”


ธาราธารชั่งใจครู่หนึ่ง เพราะวารินชมว่าเขาเป็นเด็กมีเหตุผล ครั้นจะเอาแต่ใจเกินไปนักเดี๋ยวอีกฝ่ายจะพาลถอนคำชมออกไป


“แล้วจะกลับกี่โมง” เขายกข้อมือดูเวลา ตอนนี้ ทุ่มกว่าแล้ว


“ไม่เกินตีสองหรอก”


“ตีสอง!?เขาทวนคำเสียงดังจ้องวารินอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อ


“ก็แหมธาร  ผู้ชายอ่ะ เจอกันก็มีเรื่องโน้นเรื่องนี้ต้องคุยกันดิ ไหนจะต้องดื่มกินกันอีก แล้วก็...”


“แล้วก็จะไปต่อเรื่องผู้หญิง งั้นใช่ไหม”


“ใช่ที่ไหนเล่า! เพ้อเจ้อไปใหญ่แล้ว”


“แล้วไปทำไร ทำไมต้องนานขนาดนั้น แค่นั่งคุยกันชั่วโมงเดียวก็น่าจะเสร็จ”


“หูยน้องธารครับ  ใครมันจะไปสังสรรค์กับเพื่อนแค่ชั่วโมงเดียวกันเล่า เหล้ายังลงคอได้ไม่ถึงครึ่งขวดเลย”


“อะไรนะ! นี่จะกินเหล้าด้วยเหรอ??” หลังเขาไม่ติดเบาะแล้ว จ้องหน้าวารินหาเรื่องสุด ๆ


“เปล่าๆ พูดเล่นๆ  แค่เปรียบเทียบน่ะ เปรียบเทียบ”


วารินถึงกับปาดเหงื่อ เกือบพูดเรื่องจริงที่ยังไม่เคยมีใครรู้มาก่อนของเขาก็คือ หากไปดื่มกับเพื่อนที่ถูกใจและคุยกันถูกคอ เขาจะดื่มได้เต็มที่มาก ดื่มเฉพาะเหล้าเพียว ๆ ด้วย ส่วนสปายวายอะไรนั่นอย่าไปพูดถึงเด็ดขาด กลุ่มพวกเขาไม่มีใครแตะกันสักคน มันแพงรสชาติก็งั้น ๆ สู้กระดกน้ำขม ๆ ดีกว่ากันเยอะ  ไอ้พวกเพื่อน ๆ แต่ละคนก็นะ.......แฮะๆ เด็กวิดคอมฯ ก็งี้แหละ


“จะเชื่อได้ไหมเนี่ย” เขาหรี่ตามองคนตรงหน้า ยกแว่นสายตาขึ้นมาสวมอีกครั้ง “มานี่ดิ๊  นั่งใกล้ ๆ ผมนี่”


“ทำไม” วารินลุกมานั่งข้างเขา


“หกทุ่ม” เขาต่อรอง หันมองกันใกล้ ๆ เหมือนกำลังสำรวจอะไรบางอย่าง


“โหยยธาร สามทุ่มเหอะงั้นน่ะ” วารินว่าประชด


“ตกลงสามทุ่ม”


“ไม่ใช่ๆ ๆ ตีหนึ่งๆ โอเคตามนั้นแหละ” วารินยอมถอยลงมาให้เขาหนึ่งชั่วโมง ว่าเสร็จแล้วก็จะลุกเลยแต่เขาดึงเอาแขนเล็กไว้


“แล้วคืนนี้ใครจะชงกาแฟขึ้นมาให้ผม”  ช่วงนี้วารินต้องชงกาแฟขึ้นมาให้เขาเกือบทุกคืนที่เขาค้างที่บ้าน


“ให้ดาวชงขึ้นมาให้ก่อนก็ได้นี่ ”


“มันเหมือนกันที่ไหน! กาแฟที่พี่ชงกับกาแฟที่ดาวชง”  


อย่ามาทำเป็นไม่รู้หน่อยเลย


“งั้นเดี๋ยวพี่ชงไว้ให้ก่อนออกไป ดึกๆค่อยให้ดาวเอาขึ้นมาให้ธารแบบนั้นดีกว่าไหม”  วารินทำซึนไม่รู้ว่าเขาหมายความถึงอะไร


เขายกนาฬิกาดูอีกที คิ้วเข้มขมวดครุ่นคิด “งั้นเอาขึ้นไปให้ตอนนี้ ผมจะกินกาแฟก่อนพี่ออกไปงานเลี้ยงรุ่น”


“เอาแบบนั้นก็ได้ ธารขึ้นไปรอเลย พี่ชงเสร็จแล้วเดี๋ยวเอาขึ้นไปให้”




กาแฟหอมกรุ่นถูกบรรจงวางลงบนโต๊ะ วารินสวมเสื้อยืดคอปาดสีดำ กางเกงยีนส์สีอ่อนขาดรุ่งริ่งที่ขาทั้งสองข้างตั้งแต่หัวเข่าไล่ขึ้นมาจนถึงขาอ่อน ธาราธารวางหนังสือลงบนโต๊ะทันที เขาไล่สายตามองคนตรงหน้าตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างไม่อยากจะเชื่อ


“แต่งตัวอะไรแบบนั้น ไปเปลี่ยนใหม่ ไม่งั้นไม่ต้องไป” วารินก้มมองตัวเอง


“แบบนี้ก็ดีแล้วนี่ ธารอย่าบอกว่าจะให้พี่ใส่สแลคกับเสื้อยืดคอปกเหมือนเหมือนทุกวันนะ”


“แบบนั้นมันก็เรียบร้อยดีไม่ใช่หรือไง นี่อะไรวัยรุ่นเหรอเรา อายุเท่าไหร่แล้วครับพี่ทราย” เขาว่าประชด


“อย่ามาพูดเรื่องอายุนะ!” 


วารินแหวใส่เสียงดังจนธารเงิบไปเลย จะว่าเขาเรื่องอะไรไม่แสลงใจเท่าเรื่องอายุเลยสักครั้ง  หนอยยย เห็นยอมเข้าหน่อยกดเอา ๆ 


“ห้ามพูดเรื่องตัวเลข ดูกันที่หน้าตาสิ!


อายุเขาสามสิบสองแต่หน้าเขาแค่ยี่สิบสี่เท่านั้นแหละ วารินมั่นใจ!


“ท..โทษที  ผมไม่ได้ตั้งใจว่าสักหน่อย แต่ไม่อยากให้พี่แต่งแบบนี้อ่ะ แล้วนี่ดูซิ  รวบผมแบบนั้นทำไม? รวบครึ่ง ๆ กลาง ๆ มันดูเซอร์ๆไปนะผมว่า ใช้ดินสอไม้เสียบไว้อีกคืออะไรกันเนี่ย!


ธาราธารเริ่มหน้าเสียเมื่อเห็นวารินชักสีหน้าจริงจังตอนเขาแกล้งว่าเรื่องอายุ แล้วทรงผมมัดรวบไม่หมดแบบนี้มันดูเซ็กซี่เอามากๆ


“ช่างพี่เหอะน่า เมื่อก่อนพี่ก็แต่งแบบเนี๊ยะ”   เด็กวิดคอมฯ จะอะไรนักหนากับเสื้อผ้า  พอมาทำงานเป็นเลขามันเลยต้องดูผู้ดีเรียบร้อยน่าเชื่อถือไง เลยกลายเป็นผู้ชายบูติคไปซะงั้น


เขามองดูวารินอีกครั้ง ถอนหายใจอย่างขัดใจไม่ได้ เรียกให้เดินเข้ามาใกล้ ๆ ตัวเขาเปิดลิ้นชักโต๊ะหยิบกุญแจรถส่วนตัวส่งให้


“เอารถผมไปใช้ ถ้าเมามากขับกลับไม่ไหวให้โทรมานะ อย่าขับกลับเองเด็ดขาดเข้าใจใช่ไหม”



อย่าคิดว่าวารินจะปฏิเสธ มีรถสบาย ๆขับแบบนี้ใครจะไม่อยากได้กัน คนตัวเล็กเดินเข้าไปใกล้เขาทันที ขณะจะเอื้อมมือไปรับกุญแจ ธาราธารยักไว้หน่อยหนึ่งยังไม่ยอมส่งให้ในทันที   วารินจึงเลิกคิ้วเป็นเชิงสงสัย


“อะไร?”


“เข้ามาใกล้ ๆสิ เดี๋ยวบอก” เขาใช้สายตาดึงดูดวารินให้เอียงใบหน้าเข้าหา


“จูบขอบคุณผมหรือยัง”


เขาว่าจบ ไม่รอให้อีกคนแสดงปฏิกิริยาอะไรทั้งสิ้น รวบเอาใบหน้าเล็กด้วยสองมือแล้วกดจูบสอดปลายลิ้นเข้าไปในโพรงปากนุ่มนิ่มทันที วารินที่กำลังตกใจเกือบจะต่อต้านผลักเขาออกไปแล้วแต่ก็ยังยั้งสติไว้ได้ เพราะรู้ว่ากับธาราธารยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ  ยิ่งอยากทำ เพราะงั้นคราวนี้เขาเลยปล่อย อยากจูบยาวแค่ไหนก็ปล่อยให้จูบได้เลยตามสบาย เสร็จแล้วจะได้ปล่อย ๆ ให้เขาออกไปพบปะเพื่อนฝูงเขาเสียที


แต่เห็นทีคราวนี้วารินจะประเมินเขาผิดพลาดมากไปหน่อย จูบของธาราธารไม่เพียงแต่มาราธอน แต่ยังสร้างความรู้สึกหลากหลายทางอารมณ์ให้กับเขาอีกด้วย


มือใหญ่ค่อยรั้งคนตัวเล็กให้ชิดเข้ามาเรื่อย ๆ ขณะที่ริมฝีปากยังทำหน้าที่ของมันไม่ขาดช่วง ร่างกายวารินถูกกอดรัดจนเสียสมดุลและเอนล้มลงบนตักของเขา เสียงเขาครางต่ำอย่างคนพออกพอใจ วารินไม่ชอบที่จะได้ยินเสียงต่ำลึกโทนนี้ของเขาเลย โดยเฉพาะเวลาที่ใบหน้าเขาสองคนอยู่แนบชิดกันแบบนี้ เพราะมันทำให้วารินสติกระเจิดกระเจิงอยู่ทุกครั้ง


“ธาร..... ธารพอแล้ว”  มือเล็กดันใบหน้าเขาออก หอบหายใจถี่ พยายามจะลุกออกจากเขา  “พอแล้วเดี๋ยวสาย พี่นัดเพื่อนไว้สามทุ่ม”


“ยี่สิบนาที คราวนี้จะเร่งให้” จู่ ๆ เขาว่าแล้วจับวารินลุกออก ตัวเขาเองก็ลุกขึ้นปลดกระดุมเสื้อตัวเองลง


“เฮ้ย! ไม่เอานะธาร”


วารินไม่อาจรับรู้ได้ว่าเขารวดเร็วแค่ไหนเพราะว่าตอนนี้ร่างสูงใหญ่ยืนตระหง่านเปลือยโชว์หุ่นอยู่ต่อหน้ากันแล้วเรียบร้อย


“พี่ถอดสิ เร็วหน่อยจะได้ไม่เสียเวลาหรือจะให้ผมถอดให้ดี เอาแบบนั้นก็ได้ มานี่มา”


เขาไม่พูดเปล่า เดินเข้าหาทันที วารินถอยกรูแทบไม่ทัน แผ่นหลังบางชิดผนังแล้ว


“ชู่วว์  ไม่ดื้อนะ ถ้าไม่อยากเสียเวลาว่าง่าย ๆ ยี่สิบนาทีเสร็จผมสัญญา”


“...ธาร...”


“....ร้อน....ผม ร้อนใช่ไหม จับดูสิ”


เขาจับมือเล็กเข้าแนบชิด ส่วนตัวเขาค่อยโน้มริมฝีปากอุ่นร้อนปะพรมจุมพิตไปทั่วซอกคอขาว วารินตัวอ่อนแทบจะละลายพูดอะไรไม่ออกอีกต่อไปเมื่อ ริมฝีปากร้ายลากไล้ขึ้นมามอบสัมผัสร้อนรุ่มเข้าที่ริมฝีปากสวย




.....ยี่สิบห้านาทีหลังจากนั้น เขาเลทไปนิดหน่อยเนื่องจากยีนส์ที่วารินใส่เป็นเดฟรัดรูปเอามากๆ  กว่าจะถอดกันได้แทบลากเลือด...




“บอกว่าสายแล้ว ๆก็ไม่เชื่อ ธารนี่จริง ๆ เลยจะตามมาทำไมกัน จอดตรงนี้แหละ จอดตรงนี้”


วารินชี้ ๆ ว่าตัวเองจะลงตรงไหน ที่ผับดังเขากำลังจะก้าวลงจากเบนซ์สปอตสีขาวสวย  ผู้คนที่นั่งอยู่โซนด้านนอกต่างมองกันเป็นตาเดียว


“อะไรอีกอ่ะ” เมื่อโดนรั้งแขนไว้จึงหันกลับไปถาม


“รวบผมใหม่ซะ หลุดลุ่ยหมดแล้ว”


“ก็เพราะใครกันล่ะ”


“แล้วไม่ชอบหรือไง  เห็นร้องเสียงดังเชียว”


เขาว่าแล้วยิ้มวารินมองเขาตาเขียว ต่อยแขนเขาไปทีแบบแรง ๆ ธาราธารร้องโอ๊ยขึ้นดังลั่น


“หมัดหนักเหมือนกันนะเนี่ย”


เอ๊า แน่นอน! ที่เห็นว่ายอมๆอยู่ทุกครั้งนี่ก็เพราะว่าตัวเองผิดหรอกนะ ถ้าไม่ผิดฝันเหรอจะได้มาลากมาดึงกันแบบนั้น กูก็มีมือมีตีนเฟ้ย


“โน่นไง พวกเพื่อน ๆ พี่นั่งกันอยู่โต๊ะนั้นไงริมสะพานน่ะ กลุ่มใหญ่ ๆ ผู้ชายล้วนธารเห็นไหม” วารินชี้ ๆ ให้เขาดูธาราธารเพ่งตามองตาม


“กลุ่มที่เซอร์ๆนั่นน่ะเหรอ ที่มีคนหัวฟู ๆ ด้วย”


“ใช่ ๆ นั่นแหละ อย่าไปว่าให้มันได้ยินนะ นั่นน่ะไอ้เฮี๊ยก มันเป็นตัวโจ๊กของคณะเชียว”


“นี่ถามจริงพี่เรียนจบอะไรมาอ่ะ?” เขาเริ่มสงสัย กลุ่มที่วารินชี้ให้ดู มันแปลก ๆ กันทั้งกลุ่ม


“วิดคอมทำไม?”


“วิทยาศาสตร์คอมฯ??”


“เปล่า….วิศวคอมฯ ลาดกระบัง(วะ)ครับคุณน้องธาร”


!!!!!!!


ธาราธารกลืนน้ำลายอึ่กใหญ่ ..............ไม่อยากจะเชื่อ!!!


“ไปนะ พวกมันมาครบกันแล้วมั้ง” วารินคว้าสายกระเป๋าสีดำคาดใส่ไหล่


“ตีหนึ่ง เดี๋ยวผมมารับ”


“ครับธาร  เจอกัน”


 แค่ท่าทางการเดินก็ยังเปลี่ยนไป ดูลุคเซอร์ๆ ยังไงไม่รู้  เขามองคนที่กำลังก้าวเดินเข้าไปโบกไม้โบกมือให้กับเพื่อน ๆ ทั้งฝูง พอเข้าไปถึงเท่านั้น ปากเล็ก ๆ โดนยัดบุหรี่ลงทันที วารินจับสูบแล้วพ่นควันใส่หน้าไอ้คนหัวฟูที่น่าจะชื่อเฮี๊ยกอย่างทะเล้น  อีกฝ่ายถึงกับคว้าคอเล็กเอามาโบกหัวเข้าอย่างแรงหนึ่งทีแล้วคว้ากันนั่งลงแถว ๆ หัวโต๊ะ  ธาราธารส่ายหน้าอย่างระอาใจ



นี่คือตัวจริงๆ ของวารินใช่ไหม?????



*************************************************************

Unseen >>> Tbc.